
18 ตุลาคม 1867 หรือเมื่อประมาณ 145 ปีที่แล้ว เป็นวันที่อะแลสกาของรัสเซียเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐโดยสมบูรณ์ โดยในวันนั้น ที่เมือง โนวา - อาร์คานเกลสค์ เมืองหลวงอะแลสกาของรัสเซีย ที่ต่อมาถูกเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อเดิมคือ ซิทก้า ได้มีพิธีส่งมอบคาบสมุทรแห่งนี้ให้กับสหรัฐ
ตามประวัติเชื่อว่าคนเชื้อสายเอเชียอพยพข้ามช่องแคบแบริ่ง เข้ามาลงหลักปักฐานที่อะแลสการาวเมื่อ 1 หมื่น 2 พันปีก่อน การเข้าไปติดต่อกับคนที่นี่ของชาวยุโรป เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1741 เมื่อ วิตุส แบริ่ง เดินทางไปที่นั่นกับเรือเซ็นต์ปีเตอร์ เพื่อทำการสำรวจให้กับกองทัพเรือรัสเซีย และเมื่อคณะสำรวจกลับออกมา ขนสัตว์จากที่นั่นก็ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพดีเยี่ยม คณะนักค้าขนสัตว์เล็กๆ จึงเริ่มมาที่อะแลสกา โดยหลักฐานการตั้งหลักฐานของชาวยุโรปที่นี่ว่าเกิดขึ้นในปี 1784

รัฐอะแลสกามีพื้นที่ทางตะวันออกติดต่อกับดินแดนยูคอนเทร์ริทอรีและรัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา ทางใต้ติดต่อกับอ่าวอะแลสกาและมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับทะเลเบริง ช่องแคบเบริง และทะเลชุคชี ส่วนทางเหนือติดกับทะเลโบฟอร์ตและมหาสมุทรอาร์กติก อะแลสกาเป็นรัฐที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา อะแลสกามีภูเขาไฟอยู่ 41 ลูก ที่อันตรายที่สุดคือภูเขาออกัสติน

สถานที่ท่องเที่ยว (Travel)
แองเคอเรจ (Anchorage)

แองเคอเรจ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอะแลสกา แถมยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความความทันสมัยทั้งทางด้านถนนหนทาง, ห้างสรรพสินค้า และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในอเมริกาด้วย และด้วยจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่เพียง 250,000 คน ทำให้มันเป็นเมืองที่ปราศจากความวุ่นวายและเหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนเพื่อสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ทว่าใครที่ชอบบรรยากาศแบบคึกคักละก็ ในช่วงฤดูหนาวนั้นแองเคอเรจจะเป็นเมืองยอดฮิตที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ

แฟร์แบงก์และจูโน (Fairbanks and Juneau)

แฟร์แบงก์เป็นเมืองที่มีความสนใจในด้านอาหารการกินซึ่งมีเมนูน่าสนใจให้คุณลิ้มรสได้แบบไม่รู้เบื่อ ที่สำคัญผู้คนยังเป็นมิตรแม้ว่าคุณจะเป็นคนแปลกหน้าที่มาเยือนถิ่นของพวกเขาก็ตาม เพราะพวกเขาพร้อมจะพูดคุยหรือให้คำแนะนำที่ดีสำหรับคุณ ในขณะเดียวกันจูโนก็เป็นอีกเมืองที่น่ามาเยือนสักครั้ง ด้วยทัศนียภาพอันสวยงามที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ป่าไม้ และน้ำทะเล และมันยังเป็นเมืองเดียวในอะแลสกาที่ไม่สามารถเข้าถึงโดยรถยนต์ คุณจึงสนุกไปกับการผจญภัยแบบไร้ขีดจำกัดเมื่อมาเยือนจูโน นอกจากนี้ความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ค่อนข้างมีคุณภาพดีทั้งในเรื่องการกินการอยู่หรือระบบการศึกษาเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญในทุกด้าน มันจึงเป็นอีกเมืองน่าอยู่ในอะแลสกา

โซลดอตนาและเคไน (Soldotna and Kenai)

โซลดอตนาและเคไนเป็นเมืองที่น่าสนใจซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอะแลสกา ที่สำคัญยังมีบรรยากาศแบบชนบท หากใครอยากมาสัมผัสกับบ้านนอกของอเมริกาก็มากันได้ที่สองเมืองนี้ นอกจากนี้มันยังขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะแก่การผ่อนคลายด้วยการตกปลาแซลมอน และในฤดูร้อนนี่เองที่สองเมืองนี้จะมีแสงแดดเกือบตลอดทั้งวันด้วย ใครที่อยากสัมผัสปรากฏการณ์ธรรมชาติเช่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ส่วนคอกาแฟก็เช่นเดียวกัน บรรยากาศของเมืองดีขนาดนี้ แน่นอนว่าร้านกาแฟจึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเพื่อรองรับผู้มาเยือนที่อยากนั่งจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมซึมซับบรรยากาศดี ๆ เช่นนี้

อะแลสกาถือเป็นอัญมณีในอเมริกาที่ประกอบด้วยเมืองน่าอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะบรรยากาศแบบชนบทซึ่งเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง แม้จะไม่ใช่เมืองที่มีความหวือหวามากนัก ทว่าคุณเองจะเพลินเพลินไปกับความสวยงามและความเรียบง่ายที่น่าหลงใหลจนอยากกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น